ตะกร้าสินค้าของคุณ |
---|
ไม่มีสินค้าในตะกร้า |
สินค้าขายดี |
---|
ตรวนบาปคำสาปรัก / เทียนแพร (สนพ. ทั
335
160 บาท
เพียงจันทร์แทนใจ / พรรษ / ใหม่ ทำมื 199 บาท The Promise Keeper คนประสบความสำเร็ 250 220 บาท |
เฟสบุ๊ค |
---|
Eden / Yochita uri / ใหม่ ทำมือ พร้อมส่ง ส่งฟรี |
---|
|
รายละเอียดสินค้า |
---|
(อีเดน+มารียา)
ขณะที่เลขาใหญ่วัยสี่สิบเจ็ดปีกำลังพาผู้ช่วยเลขาทัวร์ห้องของประธานอยู่นั้น อยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา ทำเอาทั้งสามถึงสะดุ้งและหันไปมองพร้อมๆ กัน
“สวัสดีท่านประธาน” เอมอรยิ้มให้ประธานใหญ่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อเห็นอีกฝ่ายเข้างานแต่เช้า
“...” อีเดนยืนนิ่งไปราวกับถูกสาป เมื่อเห็นสาวเจ้าคนที่ทำให้ตนแทบเป็นบ้าอยู่ตรงหน้า
“คนที่เราเจอที่คลับคืนนั้นนี่แก” อลิชาเอ่ยกระซิบเบาๆ บอกเพื่อนสาว
มารียาสบตากับคนที่เป็นวันไนท์สแตนด์ ก่อนจะชาวาบไปทั้งตัว ‘บ้าจริง! ทำไมโลกมันถึงได้กลมแบบนี้นะ’
“เอมพาผู้ช่วยคนใหม่ทั้งสองมาแนะนำสถานที่ค่ะ” เอมอรรีบบอกเมื่อเห็นผู้เป็นนายเงียบ ‘หรือว่าท่านจะโกรธ?’
“รบกวน... ทุกคนช่วยออกไปข้างนอกก่อนได้ไหมครับ” อีเดนเอ่ยพร้อมกับจ้องมองใบหน้างดงามที่ตราตรึงในหัวใจนิ่ง
“ดะ... ได้ค่ะ” เอมอรรีบหันไปพยักหน้าให้สองสาวออกห้องไปด้วยกัน
“คุณอยู่ก่อนรียา!” อีเดนดึงแขนบางของคนที่กำลังจะเดินผ่านหน้าตนเอาไว้มั่น
“เอ่อ... ฉะ... ฉัน...” มารียาสั่นขึ้นมาทันใด เมื่อเห็นสายตาดุดันของอีกฝ่าย
“ผมขอเวลาคุยเรื่องส่วนตัวกับคุณรียา ห้ามใครเข้ามารบกวนเด็ดขาด” อีเดนเอ่ยเสียงเข้ม
“ค่ะท่าน” เอมอรหันกลับมามองท่าทีของผู้เป็นนาย ที่ดูจะมีความหลังกับผู้ช่วยเลขาคนใหม่ ที่สวยหยาดกว่าดารานางแบบทุกคนที่เคยเป็นข่าวด้วย
“ระ... รียา ฉันอยู่ข้างนอกนะ” อลิชาบอกก่อนจะเดินตามเลขาใหญ่ออกไป มารียามองตามเพื่อนสาวจนกระทั่งประตูห้องปิดลง
คลิก!
“มะ... มีธุระอะไรกับฉันหรือคะ?” เธอพร้อมกับเหลือบมองใบหน้าคมเข้มแว่บหนึ่งด้วยหัวใจสั่นๆ
“เวลาผัวจะคุยกับเมียนี่ ต้องมีธุระด้วยงั้นเหรอ?” อีเดนถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เมื่อเห็นท่าทีเหินห่างของสาวเจ้า
“คะ... ใครเมียคุณไม่ทราบ!” มารียาหันมามองด้วยสายตาเอาเรื่องทันใด เมื่อได้ยินถ้อยคำน่าเกลียดของอีกฝ่าย
“คุณไงรียา! คุณเป็นเมียผม” อีเดนเอ่ยย้ำด้วยน้ำเสียงเดือดดาล ‘พระเจ้า! ตามหาแทบตาย สุดท้ายก็เป็นพนักงานใหม่’
“ไม่ใช่! ระ... เราแค่สนุกกัน แล้วก็จบ ต่างคนต่างแยกย้าย” เธอบอกอย่างรู้สึกอายและโมโหที่อีกฝ่ายยังไม่หยุดหยาบคาย
“อะไรนะ! จบงั้นเหรอ? ต่างคนต่างแยกย้ายงั้นเหรอ?” อีเดนถามอย่างไม่เชื่อหูที่สาวตรงหน้าพูดจาราวกับสาวที่รักสนุก
“ค่ะ” มารียาพยักหน้าเบาๆ อย่างไม่รู้จะทำยังไง ‘ตาบ้านี่ต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ ที่จริงจังกับผู้หญิงที่เจอได้แค่วันเดียว’
“พูดง่ายดีนะ!” อีเดนเอ่ยเยาะด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ก็แล้วคุณจะให้ฉันพูดยังไงล่ะ”
“ก็พูดว่าคุณขอโทษที่ทิ้งผมไว้ที่โรงแรมยังไงล่ะรียา”
“ฉันไม่ได้ทิ้ง!”
“งั้นทำไมถึงไม่ปลุกผม”
“ก็แล้วทำไมฉันต้องปลุกคุณด้วยล่ะ บ้านเราไม่ได้กลับทางเดียวกันสักหน่อย”
“พระเจ้า! คุณไม่แคร์เรื่องคืนนั้นของเราจริงๆ งั้นเหรอ”
“ฉันเมา คุณก็เมา แล้วฉันจะไปเรียกร้องอะไรล่ะ ก็ต่างคนต่างไปน่ะดีแล้ว”
“แต่ผมเป็นผู้ชายคนแรกของคุณนะ” อีเดนบอกสาวมั่นที่ทำท่าโนสนโนแคร์อย่างไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
“ทุกคนต้องมีครั้งแรกเสมอ” เธอกัดฟันบอกทั้งๆ ที่ความคิดและความรู้สึกภายในใจกำลังวิ่งวนเป็นล้านๆ
“แล้วถ้าคุณท้องขึ้นมาล่ะ” อีเดนปล่อยหมัดฮุกใส่ทันใด
“อ้าว! คืนนั้นคุณไม่ได้ป้องกันหรอกเหรอ” มารียาตาโตขึ้นมาทันทีทันใดราวกับถูกลากไปตบกลางสี่แยกไฟแดง
“ไม่! ไม่ได้ป้องกันเลยสักครั้งเดียว” อีเดนทำหน้าราวกับคนที่ถือไพ่เหนือกว่า
“บ้าจริง! นี่ฉันจะติดเอดส์หรือเปล่าเนี่ย” มารียาสบถเสียงดังอย่างหัวเสียที่รู้ว่าตัวเองผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่
“ให้ตายสิ! ผมไม่ได้สำส่อนนะ ผมป้องกันทุกครั้ง” อีเดนกลอกตา ก่อนจะต่อว่าคนที่ทำท่าจะสติแตก
“โกหก! แล้วทำไมคืนนั้นคุณไม่ป้องกันล่ะ” เธอหันไปตอกกลับด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด ‘โลกนี้จะมีใครโชคร้ายเหมือนเราอีกไหมนะ โดนคู่หมั้นนอกใจ เมาแล้วเสียตัวให้คนแปลกหน้า แถมไอ้บ้านั่นก็ไม่ใส่ถุงยางอีก’
“ผม...” อีเดนอึกอักไม่รู้จะตอบยังไง เพราะตนก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน ว่าทำไมถึงได้ปล่อยตัวในคืนนนั้น
“ฉันต้องรีบไปตรวจเลือด” เธอบอกพร้อมกับเตรียมท่าจะเดินไปที่ประตูห้อง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายขวางเอาไว้ซะก่อน
“รียา! ผม-ไม่-ได้-เป็น-เอดส์-โอเค้” อีเดนกัดฟันข่มอารมณ์ให้เย็น เมื่อถูกอีกฝ่ายกล่าวหาด้วยโรคที่ร้ายแรง
“คุณร่านออกขนาดนั้น ฉันจะมั่นใจได้ยังไง” มารียาถามด้วยสีหน้าตึงๆ
“ผม-ไม่-ได้-ร่าน” อีเดนเอ่ยย้ำชัดๆ ทีละคำอย่างโมโห ‘พระเจ้า! ทำไมต้องส่งผู้หญิงที่คิดอะไรเพี้ยนๆ แบบนี้มาเป็นเมียผมด้วย!’
“ฉันไม่เชื่อ!” มารียามองร่างสูงร้อยเก้าสิบกว่าตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับยิ้มเหยียดๆ ให้อีกฝ่าย
“งั้นไปตรวจด้วยกัน” อีเดนบอกก่อนจะคว้าข้อมือให้ออกเดิน
“ไม่! ฉันจะไปตรวจเอง” มารียาสะบัดข้อมือของอีกฝ่ายออกด้วยสีหน้ารังเกียจทันใด ‘อีตานี่มือเร็วชะมัด’
“ไปด้วยกัน! เผื่อว่าคุณเป็นเอดส์ขึ้นมาล่ะ ผมจะทำยังไง” อีเดนมองคนถือดีอย่างตัดพ้อ ‘หึ! ทีตอนเมาละออดอ้อนยังไงก็มี ทีตอนนี้ล่ะทำเป็นเล่นตัว’
“เฮ้! คุณเป็นผู้ชายคนแรกของฉันนะ” มารียาเอ่ยเตือน
“ไม่รู้ล่ะ! เพื่อความสบายใจคุณต้องไปกับผม” อีเดนบอกพลางเข้าไปดึงข้อมือบางอีกครั้ง
“โอ๊ยยยย นี่มันอะไรกันเนี่ย” มารียาบอกด้วยพร้อมกับพยายามผลักร่างสูงออก
-----------------------------------
(พี่ป้อง+น้องอลิซ)
ห้านาทีต่อมา...
หลังจากที่ปริณอาบน้ำเสร็จก็ใส่เสื้อคลุมสีชมพูของสาวเจ้า เดินออกห้องน้ำมาด้วยสีหน้าที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยความสุข แต่ทว่า... เขากลับพบเพียงความว่างเปล่าบนเตียงที่เมื่อสิบห้านาทีก่อน ยังมีสาวเจ้านอนหลับอยู่
“อลิซ! อลิซ!” ปริณตะโกนเรียกขณะเดินออกไปดูรอบๆ บริเวณของห้องด้วยสีหน้าตื่นๆ “บ้าจริง! สงสัยหนีขึ้นไปห้องจอร์นแน่ๆ”
ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะรีบตามหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเมียทางพฤตินัยไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง!
ชั้นบนสุด... (ห้องจอร์น)
ปิงป่องๆ
“ใครมาวะ” จอร์นที่กำลังทำอาหารหันมาบอกเพื่นอสาวอย่างรู้สึกมึนงง
“นั่นสิ! เด็กแกมาหรือเปล่า?” มารียาที่เพิ่งจะพื้นจากไข้ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย
“บ้า! ฉันไม่เคยพาใครมาที่นี่” จอร์นบอกพลางถอดผ้ากันเปื้อนออก
“งั้นก็รีบๆ ไปดูสิ เผื่อเป็นอลิซ” มารียารีบเดินเข้าไปคนข้าวต้มทรงเครื่องให้อย่างรู้งาน
“คนต่ออีกนิด แล้วปิดเตาได้เลยแก” จอร์นบอกก่อนจะเดินออกไปดูที่ประตูหน้าด้านนอก
ทันทีที่เปิดประตูออกดูก็ตกใจที่อลิซยืนหน้าซีดมือไม้สั่นรออยู่
“กว่าจะมาเสด็จมาเปิดได้นะ” สาวเจ้าต่อว่าทันใด
“พระเจ้า! นี่แกหนีพี่ป้องมาสินะ” จอร์นมองเพื่อนสาวที่สภาพเหมือนคนโดนรุมโซมมาอย่างอึ้งๆ
“เอ่อ!” อลิซตอบด้วยสีหน้าตึงๆ ก่อนจะเดินเข้าไปที่ด้านใน
“รียาอยู่ทำกับข้าวอยู่” จอร์นรีบเดินนำไปในครัว
มารียาที่กำลังปิดเตา เตรียมจะเดินออกไปดูว่าใครมาหาเพื่อนชาย แต่พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเพื่อนสาวเดินน้ำตาคลอเข้ามาหา
“รียา แกช่วยพาพี่ป้องกลับบ้านไปก่อนได้ไหม ฮึก!” อลิซบอกทั้งน้ำตา เพราะเมื่อหลายชั่วโมงก่อน ปริณขู่ว่า... ถ้าหากไม่เธอไม่ยอมให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่เรื่องแต่งงาน เขาจะเก็บเสื้อผ้ามาอยู่กับเธอที่คอนโด แล้วจะโทรเรียกให้พ่อกับแม่มาที่ห้อง
“อลิซ...” มารียาวิ่งเข้าไปกอดเพื่อนสาวที่ยืนร้องไห้จนตัวสั่นอย่างรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ
“ฮึก... ฉันยังไม่อยากคุยกับพี่ป้องตอนนี้ ได้โปรดรียา... ฮือๆๆ พาพี่ป้องกลับไปที” อลิซปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไปไม่อยู่
จอร์นกำลังจะเข้าไปหาเพื่อนทั้งสอง แต่ทว่ากลับตกใจตาค้างที่เห็นพันเอกปริณเดินใส่เสื้อคลุมสีชมพู เดินหน้าตึงตรงเข้ามาหา
“พะ... ป้อง” จอร์นเอ่ยเรียกเสียงสั่น ทำเอาสองสาวที่กำลังกอดกันดราม่า หันขวับไปมองที่ประตูทันทีทันใด
“หนีพี่มาทำไม!” ปริณถามเสียงดังพร้อมกับเข้าไปดึงร่างบางเข้ามายืนแนบตัวอย่างโมโห
“พี่ป้องปล่อยอลิซเดี๋ยวนี้นะ” มารียาตาโตเมื่อเห็นเสื้อคลุมที่ปิดปังเนื้อตัวที่ใหญ่ยักษ์ของพี่ชายแทบจะไม่มิดอย่างอึ้งในอึ้ง ‘ใส่ไปได้! ไม่อายบ้างหรือไงนะ’
“พี่บอกให้เรากลับบ้านไปก่อนไม่ใช่เหรอ” ปริณต่อว่าน้องสาวที่ยังไม่กลับบ้านกลับช่อง
“ก็เป็นห่วงอลิซนะสิ! ปล่อยเพื่อนของรียาเดี๋ยวนะ” มารียาบอกพร้อมกับเข้าไปดึงแขนของเพื่อนสาว
“พี่ยังเคลียร์กับอลิซไม่จบ” ปริณบอกพร้อมกับปักมือของน้องสาวออกอย่างหงุดหงิด
“จอร์นช่วยฉันด้วย ฮึก!” อลิซหันไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เอาแต่ยืนอ้าปากค้างอยู่ใกล้ๆ
“อะ... เอ่อ...” จอร์นทำหน้าเหวอทันใด เมื่อเพื่อนสาวหาเรื่องตายมาให้ตน
“นายอยากมีปัญหากับพี่งั้นเหรอจอร์น” ปริณหันมาถามพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาดุดัน
“เอ่อ... ไม่ครับ ผมไม่มีปัญหาครับ” จอร์นออกตัว พร้อมกับยกมือขึ้นทั้งสองข้างทันใด
‘ไอ้จอร์น! ไอ้เพื่อนเลว’ อลิซตัดพ้อหลังถูกเพื่อนรักปฏิเสธความช่วยเหลือราวกับคนไม่รู้จักกันมาก่อน
“พี่ป้องกลับไปเถอะ หนูขอร้องล่ะ ฮือๆๆๆ” อลิซหันไปดราม่าใส่คนใจร้ายที่กดกอดเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“พี่จะให้พ่อกับแม่ไปสู่ขอเรา และจะจัดงานแต่งให้สมเกียรติ เราบ้าอะไร ถึงได้ปฏิเสธพี่จะเป็นจะตายขนาดนี้ฮะ พี่มีตรงไหนที่ทำให้เราอับอายงั้นเหรอลิซ” ปริณระเบิดเสียงถามอย่างโมโห ที่กล่อมแล้วกล่อมอีก สาวเจ้าก็เอาแต่ปฏิเสธตน
“ค่อยๆ คุยกันสิพี่ป้อง ทำไมต้องเสียงดังใส่อลิซด้วย” มารียาบอกอย่างทนไม่ไหว
“ก็เพื่อนเรามันพูดไม่รู้เรื่องน่ะสิ” ปริณตอกกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“พี่ป้อง!” มารียาตะโกนเรียกชื่อพี่ชายอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“หนูต้องการเวลา หนูไม่อยากเห็นหน้าพี่ป้อง ไม่อยากได้ยินเสียง ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น ได้โปรด... กลับไปซะ หนูขอร้อง ฮือๆๆ” อลิซสะอื้นไห้จนตัวสั่น เมื่อทำยังไง พูดยังไงปริณก็ยังไงเข้าใจความรู้สึกของเธอในตอนนี้
“เอ่อ... ผมว่าให้เวลาอลิซสักหน่อยดีไหมครับพี่ป้อง” จอร์นกัดฟันเผือกเรื่องของสามีภรรยา
“ใช่! พี่ป้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับพร้อมกับรียาเลย” มารียารีบเอ่ยสมทบ เมื่อเห็นพี่ชายชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง
“ก็ได้! พี่ให้เวลาเราสามวัน ถ้าครบสามวันแล้วเคลียร์กันไม่ได้ พี่จะเปลี่ยนไปเคลียร์กับพ่อของเราแทน!” ปริณบอกจบก็ร่างบางให้เป็นอิสระ จากนั้นก็เดินออกไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง
---------------------------------------
|
สอบถามหรือแสดงความคิดเห็น |
---|