เขาเดินออกจากห้องนอนหลังหายเข้าสงบสติราวๆ สิบห้านาที ออกมาเห็นไอรักนั่งหน้าซีดอยู่บนเก้าอี้ ดวงตาของเธอคลอหยดน้ำ เป็นอีกครั้งที่ลิเคียวโคตรจะเกลียดตัวเอง ไอ้นิสัยห่ามๆ เจ้าอารมณ์มันไม่เคยหายไปสักที เขาไม่อยากเห็นยัยเด็กไอรักร้องไห้ เห็นแล้วมันปวดใจ!
“กินข้าวสิ”
“เรื่องพี่เอ็ม ไอขอเวลา...”
เสียงใสแหบแห้งมากๆ เหมือนเจ้าตัวพยายามควบคุมอารมณ์ ใช่ ไอรักกำลังกลัวอีกฝ่าย กลัวว่าเขาจะลงไม้ลงมือเกรี้ยวกราดเหมือนเมื่อครู่
ทว่า... จู่ๆ มือหนาก็วางบนศีรษะของเธอแล้วลูบเบาๆ เขาไม่ได้นั่งหัวโต๊ะ แต่เลือกลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ไอรัก ก่อนจะดึงร่างบางเข้าหาอกแล้วลูบหลังลูบไหล่ ราวกับต้องการปลอบโยน สัมผัสชวนอบอุ่นรู้สึกดี แต่ความขุ่นมัวน่ากลัวที่เขาทำเมื่อครู่มันก็ยังเกาะกินหัวใจของเธอ นึกภาพความเป็นสามีภรรยาไม่ออกเลย
“อย่ากลัวฉัน”
“คุณน่ากลัว”
“จะพยายามไม่น่ากลัว”
“ถ้าไม่อยากแต่งงาน ก็ไม่ต้องฝืนใจหรอกค่ะ ไอเข้าใจดี บางที...”
เขาดันร่างเล็กออกแล้วปากได้รูปก็โน้มลงมาปิดปากอิ่ม ไม่อยากได้ยินถ้อยคำใดๆ ที่อาจสร้างความขุ่นเคืองทางอารมณ์
“ฮือ อื้อ...”
พอหายตกใจไอรักพยายามร้องท้วงแต่เชื่อไหมหัวใจและร่างกายของเธอสั่นมาก การกระทำที่มันมากกว่าการกอด ลิ้นร้อนๆ ซอกซอนเข้ามาตวัดรัดพันลิ้นของเธอ หรือบางครั้งก็ขบเม้มกลีบปากบนและล่างอย่างชำนิชำนาญ มือบางอยากผลักไสแต่ทำไมกลับเลื้อยไปกอดรอบลำคอแกร่งเสียได้
ความหวานที่ได้รับมากมายกว่าที่คิด จากที่แค่อยากจูบขอโทษเพียงภายนอก ลิเคียวกลับจูบลึกซึ้งดื่มด่ำด้วยความกระหายหิว และร่างกายของเขามันปรารถนามากกว่าจูบ ก่อนทุกอย่างจะเลยเถิดไปไกล ลิเคียวจำต้องถอนจูบมองใบหน้าเนียนแดงซ่านกระจ่างด้วยเลือดฝาด มองแล้วน่ารักน่าฟัด
“กินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวจะได้ออกไปดูหนัง”
“ค่ะ แล้วคุณลิเคียวว่างเหรอคะ”
“ก็ว่างพอจะพาเมียไปดูหนังช็อปปิ้ง”
น้ำเสียงเรียบๆ ของเขาฟังเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับส่งผลมากมายต่อหัวใจของเธอจนมันพองโต
“คุณลิเคียว”
“เมื่อกี้ฉันผิดเองที่ทำตัวไม่ดี”
เหอะ ปกติคนอย่างไอ้ลิเคียวเคยรู้สึกผิดด้วยหรือไง มาเฟียหนุ่มอยากจะขำตัวเอง เขามองใบหน้าเนียนที่ตอนนี้ขยับออกจากอก นั่งหลังตรงจับช้อนกับส้อมเพื่อรับประทานอาหารเงียบๆ โดยมีเขาตักกับข้าวไปวางในจาน
ไอรักเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ ทำแบบนี้เหมือนตบหัวแล้วลูบหลัง มาทำดีเพื่อลบลางสิ่งที่กำลังจะเป็นบาดแผลในหัวใจ แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ แต่คนปากหนักแบบเขาก็ไม่แม้จะพูดคำว่าขอโทษออกมาสักคำ ไอรัส่ายหน้าต่อการคาดหวังลมๆ แล้งๆ คงต้องรอให้พระอาทิตย์ไปขึ้นทางทิศตะวันตกก่อนกระมัง มาเฟียแบบเขาทั้งห่ามทั้งดิบดุดัน เขาจะเข้าอกเข้าใจใครเป็น
“กินเหมือนแมวดม”
“ปกติไอก็กินแค่นี้นะคะ”
“มันน้อยมาก”
“กินเยอะอ้วนเป็นหมู ไอไม่อยากเป็นหมู”
แล้วสมองของไอรักก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เป็นหมู? ใช่แล้ว ตอนเด็กเธอค่อนข้างเจ้าเนื้อ ต่างจากเอริน รายนั้นหุ่นดีกว่าเธอ ตอนเล็กๆ ไอรักจึงถูกล้อในโรงเรียนเสมอว่าเป็นเด็กอ้วอน เด็กแหนม และหนักสุดคือ อ้วนเป็นหมู
พอได้นึกย้อน นั่นคือส่วนหนึ่งทำให้เธอค่อนข้างไม่ตามใจปาก แต่ก็ไม่ได้เคร่งอะไรมากเพียงแต่เลือกกิน และออกกำลังกาย ทว่านี่ก็เกือบอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้เข้าฟิตเนส ห่างหายนานๆ ร่างกายจะไม่ชิน ฉะนั้นเย็นนี้เธอควรเข้าฟิตเนสที่ไหนสักแห่ง
ราคา
359 บาท