“มาคนเดียวหรือ ทำอะไรที่นี่”
“ผมเหรอครับ อ๋อ! ผมจะมากวาดศาลครับ” สรัลชี้มือไปที่ศาลเจ้าพ่อว่านทอง
“ทวดสร้างศาลนี้ไว้เอง ผมมาวัดทีก็มากวาดที หลวงพ่อคนก่อนคอยช่วยดูแลให้
พอท่านป่วยก็ไม่มีใครทำ หลวงพี่คนใหม่ไม่ค่อยสนใจศาลนี้ ขอหวยไม่ได้ ชาวบ้านเลยไม่ขึ้น”
ชายตรงหน้ายิ้มขำๆ เหมือนขำอะไรที่เขารู้อยู่ฝ่ายเดียว
“งั้นรึ เคยมาขอกับเขาแล้วไม่ได้รึไง”
“ผมเหรอ” สรัลชี้อกตัวเอง แล้วหัวเราะ “ยังไม่เคยครับ ไม่รู้จะขออะไร”
“มีด้วยหรือ คนที่ไม่รู้จะขออะไร” อีกฝ่ายย้อนถามยิ้มๆ
“แสดงว่าเกิดมามั่งมีศรีสุข พรั่งพร้อมหมดทุกอย่างจนไม่ขาดแคลนสิ่งใดกระมัง”
“ไม่ถึงยังงั้น” หนุ่มน้อยตอบ หัวเราะเขินๆ “ถ้ารวยคงไม่มาอยู่แถวนี้
ผมเชื่อที่พระท่านสอนไว้ว่า อัตตาหิ อัตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ผมอยากได้อะไร ผมก็พยายามทำให้ได้เอง มันก็ได้ทุกที เลยไม่ต้องบนบานไงพี่”
“ถ้ามีคนอย่างนี้มากๆ ก็ดี เป็นที่พอใจของเทวดา”
สรัลหัวเราะขำ
“งั้นรึครับ ทำไมถึงพอใจ”
“คนดีใครๆก็นับถือ รู้จักพึ่งตนเองตามที่พระท่านสอนไว้
ไม่ต้องไปขอโน่นขอนี่ให้เหนื่อยแรงเทวดา”
โห! คุณแกพูดราวกับรู้จักเทวดา สรัลมองหน้าให้แน่ใจ
หน้าตาก็ดี แต่งตัวก็ดี ไม่น่าเพี้ยน แต่เอาเถอะ คนเพี้ยนมีได้ทั้งคนจนคนรวย
ใครหน้าไหนจะไปห้ามคนรวยไม่ให้เพี้ยนได้ล่ะ
_______________________________