จิ นจู รับรู้ได้ถงมือหนาใหญ่ที่ลูบไล้ไปตามเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของนางอย่าง อ่อนโยนจนอ่อนระทวยเริ่มยืนไม่อยู่ อ้อมแขนแรงจึงโอบกระหวัดเอวบางเข้าหาตัว มืออีกข้างหนึ่งช้อนเรียวขาทั้งสองขึ้นจากพื้น รับรู้ถึงความเรียบลื่นของผ้าปูเตียงที่แผ่นกลังก่อนที่ร่างสูงจะทาบทับลงมา แนบชิด ความรู้สึกสั่นสะท้านกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่งเมื่อจอมโจรจูบแผ่วๆ ที่ติ่งหูก่อนจะไล่เรื่อยลงมาที่ซอกคอขาวแต่เทียบไม่ได้เลยเมื่อริมฝีปาก ร้อนนั้นเลื่อนลงต่ำเพื่อครอบครองทรวงอกอิ่ม มือร้อนระอุที่ลูไล้ไปตามร่างเนียนของนางค่อยๆ ลากเรื่อยมาตามเรียวขาเนียนนุ่ม ก่อนที่นิ้วแกร่งจะเลื่อนขึ้นมาถึงกึ่งกลางลำตัว จินจู ก็คว้าข้อมือคนรักไว้แน่น "เหวินซาน" "ลืมที่ข้าสอนคืนนั้นเสียแล้วหรือ...ไม่มีส่วนใดในกายเจ้าที่จะไม่เป็นของ ข้า" คำกล่าวนั้นแม้น้ำเสียงนุ่มนวลแต่ช่างเหิมเกริมยิ่งนัก "ไหนว่ารักข้า..ทำไมรักแกข้าเช่นนี้" เสียงหวานกระซิบแผ่ว ซุกหน้าแดงร้อนผะผ่าวลงที่อกอุ่นของเขา "ก็เพราะรักเจ้าน่ะสิ" หญิงสาวผมยาวประบ่าทิ้งตัวลงพิงกับพนักเก้าอี้ของเครื่องบินอย่างช้าๆ มือเล็กปิดสมุดสีฟ้าอ่อน ซึ่งกำลังเปิดหน้าที่เธออ่านมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบครั้งจนแทบจะจำข้อความได้ ทั้งหมดลง ปาลิตา... หอบหัวใจช้ำรักบินลัดฟ้าไปยังเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อตามหาเรื่องราวในตำนานของจอมโจรรูปงามกับองค์หญิงสูงศักดิ์ ที่เธอบังเอิญได้อ่านจากอินเตอร์เน็ทในบล๊อคของผู้ชายคนหนึ่งใช้ชื่อว่า "ลัคกี้ เดวิด" เรื่องราวทั้งหลายกลับไม่ง่ายนักเมื่อเธอพบว่า เดวิด ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของเรื่องราวทั้งหมดนั้นมีอยู่ด้วยกันถึงสองคน คนแรกอ่อนโยนและใจดี ส่วนอีกคนทั้งปากร้ายและแสนจะเย็นชา ใครกันคือเจ้าของตำนานตัวจริง ปาลิตา คงต้องใช้หัวใจตัดสิน แต่อย่างน้อยการมาเยือนกรุงปักกิ่งครั้งนี้ หญิงสาวก็ได้คำตอบที่ต้องการกลับไป รักแท้ยังคงมีอยู่จริง
|