กรพินธุ์ เพาะศิลป์ ไม่คิดว่าวันหยุดที่แสนรอคอยหลังจากหมดสัญญาเดินแบบให้กับบริษัทโมเดลลิ่งชื่อดังในยุโรป แต่กลับต้องมาเจอข่าวการหายตัวไปอย่างลึกลับของ กบินทร์ พี่ชายของเธอและทำให้เธอต้องตามหาเขาในประเทศธาทาเนีย ซึ่งมีทะเลทรายที่แสนร้อนระอุโอบล้อม เฟล็ตเชอร์ พอลลิสเตอร์ เป็นชื่อหนึ่งในหลายๆ ชื่อของ ชีค มันซูร แห่งธาทาเนีย ได้ยินกบินทร์ซึ่งเป็นนักข่าวอิสระและเป็นเพื่อนกับเขาพูดถึงน้องสาวตัวเองบ่อยๆ แต่ไม่คิดว่ากรพินธุ์จะสวยมากขนาดนี้ นิสัยตรงไปตรงมาและจริงใจผสมกับความงามไร้ตำหนิดึงดูดจิตใจของเขานักนิสัยตรงไปตรงมาและจริงใจผสมกับความงามไร้ตำหนิดึงดูดจิตใจของเขานัก แต่เพราะความสวยของกรพินธุ์ทำให้เธอถูกลักพาตัวในเขตค้าทาส และนั่นทำให้ชายหนุ่มรู้ดีว่าจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องกรพินธุ์ได้ เขาและเธอจะทำอย่างไรกับหัวใจที่เคยปฏิเสธความรักกลับพร่ำเพรียกหากันอย่างที่ไม่เคยเป็น เรื่องย่อ ตอนที่ 1. ธาทาเนียประเทศนี้ตั้งอยู่ใจกลางทะเลทรายฮาร่า ความร้อนระอุรอยขึ้นจากฟุตบาธแล้วอาบไล้ตัวหญิงสาวชาวเอเชียจนเธอรู้สึกวิงเวียน แม้ว่าเธอจะเดินทางมาจากประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่ามี 2 ฤดูคือร้อนและร้อนที่สุดแต่ก็ไม่เคยรู้สึกร้อนอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต ไม่เคยสูดลมหายใจที่ร้อนผ่าวขนาดนี้เข้าปอด มันพาลจะทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก มันมากกว่าที่เธอเคยรับรู้ว่าหลายสิบเท่านั้น แม้ว่าจะเตรียมใจมาก่อนแล้วแต่หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกถึงอุปสรรแรกของการมาเยือนดินแดนทะเลทรายแห่งนี้ กรพินธุ์ เพาะศิลป์ ยืนคอยอยู่หน้าสนามบินอาวาเรียที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงของประเทศ ธาทาเนียไปเพียงไม่กี่ไมล์ ชายในชุดยาวรุ่มร่ามสีขาวและผ้าคลุมศีรษะตามประเพณีเดินถือกระเป๋าเอกสารผ่านหน้าเธอไป สายตามองมาเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแสนหยาบคาย ศลิษาเป็นคนสูงและมีช่วงขาเพรียวสวยตามลักษณะของคนเป็นนางแบบที่ตลาดแฟชั่นต้องการ ผมสีดำนิลยาวเกือบถึงเอวถูกดึงรวบขึ้นแล้วมัดทิ้งเป็นพวงหางม้าไว้ทางด้านหลังช่างตัดกับผิวขาวอมชมพูของเธอซึ่งกลายเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งยามอยู่แคทวอร์ค ขาของเธอก็เปลือยเช่นเดียวกับแขนแม้ว่าชุดซันเดรสกระโปรงบานสีครีมยาวจรดเข่าจะเรียบร้อยพอสมควรด้วย แต่สายตาหยาบคายของชายผู้นี้ทำให้เธอเหมือนหล่อนกำลังเปลือยกายอยู่ จะมองอะไรกันนักหนานะ ไม่ใช่ปลาทองนะยะ! กรพินธุ์ ค่อนว่าอยู่ในใจแล้วหรี่ตาสีดำมองกลับอย่างท้าทายเงียบๆ ทว่ามันไร้ผล หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ น่าจะอ่านบทความเกี่ยวกับประเทศนี้ก่อนเดินทางมาที่นี่ เห็นได้ชัดว่าหล่อนกำลังผจญกับวัฒนธรรมประเพณีที่ย้อนหลังกลับไปเมื่อพันปี่ที่แล้วช่างทำตัวไม่สมกับเป็นน้องสาวของ กบินทร์ เพาะศิลป์ นักข่าวอิสระผู้ได้ชื่อว่าบุกป่าฝ่าดงกระสุนมานับไม่ถ้วยแล้ว และแน่นอที่สุดว่านางแบบสุดฮอตอย่างเธอคงจะไม่วันมาสถานที่แบบนี้แน่ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่พญาลิงของเธอละก็ เธอไม่มีวันเหยียบย่างมาที่นี่อย่างแน่นอน พี่ลิงของฉันอยู่ไหนหนอ! ถ้าพี่กลับมาอย่างปลอดภัยน้องจะยอมเรียกพี่กบินทร์ไม่เรียกพญาลิงอีกแล้ว กรพินธุ์ ถอนหายใจนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก่อนจะทรุดกายลงนั่งหมิ่นๆ บนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ระหว่างรอให้แท็กซี่โฉบผ่านมา เธอพยายามโกรธพี่ชายตัวเองให้มากๆ เผื่อว่าความกลัวที่มีมันจะลดลงด้วย ตั้งแต่พ่อและแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนที่เธออายุเพียง12 ปี ก็มีแต่พี่ชายที่แก่กว่า 5 ปีคนนี้คอยดูแล ตอนนั้นพี่ชายเธอต้องลาออกจากโรงเรียนมัธยมแล้วมาเรียนปวช.แทนเพื่อที่จะให้เธอได้เรียนหนังสือสบายขึ้น แต่นั้นก็ทำให้พี่ชายมีภาพลักษณ์เป็นนักเลงหัวไม้ไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็อีกนั้นแหละที่มันทำให้พี่ชายเธอชื่นชอบการเป็นนักข่าวไปด้วย ส่วนเธอนะเหรอ? จะเรียกว่าอะไรดีละ เพราะพี่ชายเป็นห่วงน้องเลยจับไปฝึกศิลปะป้องกันตัวจนแข้งขายาวซึ่งก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหมแต่ที่แน่ๆ ตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยมีแมวมองมาสนใจเพราะตอนนั้นเธอแข่งยูโดในฐานะตัวแทนของมหาวิทยาลัย แม้การแข่งขันครั้งนั้นเธอจะได้เพียงลำดับที่ 4 ไร่เหรียญรางวัลแต่กลับได้เข้าวงการแฟชั่นแทน กรพินธุ์ไม่ได้หลงใหลอาชีพนี้เท่าใดนักหรอก แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่ในเมื่อชีวิตเธอจำเป็นต้องใช้เงินเป็นค่าใช้จ่ายแต่ละวัน,ค่าเทอมของเธอด้วยและมันก็ช่วยแบ่งเบาพี่ชายปากร้ายของเธออีกทางหนึ่ง ทำให้พี่พญาลิงหรือพี่กบินทร์ได้โบยบินในเส้นทางสายนักข่าว แต่เมื่อสองวันที่แล้วนี้หล่อนยังนั่งอยู่ในบ้านไม้หลังเล็กแสนสุขของเธอในชานเมืองกรุงเทพฯ เป็นสิ่งเดียวที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนจากไป บ้านที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเย็นใจ เธอเพิ่งได้หยุดพักหลังจากเสร็จสิ้นสัญญาการทำงานให้บริษัทโมเดลลิ่งที่เธอสังกัดอยู่ และไม่คิดจะต่อสัญญาในตอนนี้ เธอไม่ได้อยากยึดมันเป็นอาชีพถาวรแต่ก็คิดอยู่ว่าจะไปสมัครสอบเป็นแอร์โฮสเตส หรือไม่ก็อยากเปิดร้านขายดอกไม้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ต้องหอบหิ้วกระเป๋าบินข้ามน้ำข้ามทะเลมายังธาทาเนียซะแล้ว! กรพินธุ์ ยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อออกจากหน้าผากแล้วหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อนพลางนึกถึงเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในวันหนึ่งที่เธอเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น สวัสดีค่ะ มิสกรพินธุ์ เพาะศิลป์? เสียงแปร่งๆ สำเนียงฝรั่งเลียนเสียงไทยดังขึ้นในสาย ใช่ค่ะ ผมมีข่าวของพี่ชายคุณ คำพูดของชายผู้ที่ไม่ได้แนะนำตัวเองเรียกความสนใจจากเธอได้ในทันที พี่กบินทร์ไปที่ตะวันออกกลางเป็นเวลาเดือนเศษแล้ว เขาไปเพื่อเขียนเรื่องให้กับนิตยสารฉบับหนึ่งที่เขาทำงานอยู่ด้วย และถ้าจำไม่ผิดเมื่อสองอาทิตย์ก่อนเขาโทรมาหาเธอแล้ว ถามว่าเธออยู่ไหนเมื่อไหร่จะเสร็จงาน เขาอยากชวนเธอไปเปิดหูเปิดตาที่ธาทาเนีย แต่เธอเหนื่อยเรื่องการเดินทางเกินกว่าจะคิดไปเที่ยวไหน เขาจึงสัญญว่าจะกลับมาฉลองวันเกิดปีที่ 24 ให้เธอที่เมืองไทยพร้อมภาพเด็ดๆ ที่ครั้งนี้เขาอาจจะเปิดแสดงภาพถ่ายของตนเองเป็นครั้งแรกก็ได้ กรพินธุ์ เข้าใจพี่ชายตัวเองดี เขาไม่เคยเลี้ยงเธอแบบ เจ้าหญิงน้อย แต่เลี้ยงเธอให้กล้าแกร่งแบบที่จะอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรดได้ และเธอเองก็เคยชินกับความเหลวไหลในเรื่องของเวลาของพี่ชายเสมอ ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปสองสามวันโดยไม่มีแม้แต่เงาของพี่พญาลิง กรพินธุ์ จึงไม่วิตกอะไรนักแต่เมื่อสองสามวันผ่านเลยไปกลายเป็นอาทิตย์เธอก็ชักเริ่มกังวลแต่ก็ยังไม่ได้คิดจะตามหา แต่เมื่อถึงตอนนี้เวลาก็เลยไปเป็นสองอาทิตย์เธอเริ่ม โทรติดต่อหาเขาไม่ได้ ลางสังหรณ์ของที่บีบหัวใจของตัวเองทำให้เธอกังวลจนวันที่มีโทรศัพท์แปลกๆ เข้ามา กรพินธุ์กำหูโทรศัพท์ที่แนบอยู่กับหูเอาไว้แน่น มีเรื่องอะไรคะ พี่กบินทร์เป็นอะไร? ดูเหมือนว่าเขาจะหายตัวไป อะไรนะคะ ? เราหาตัวเขาไม่เจอ เราคือใครคะ แล้วคุณเป็นใครกัน? ขอโทษครับ ผมทำงานอยู่กับสถานทูตไทยในประเทศธาทาเนีย ออกจะนานอยู่สักหน่อยนะคะกว่าที่คุณจะโทรกลับหาฉันได้ เราต้องการตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนที่จะติดต่อหาคุณ แล้วคุณพบอะไรบ้าง? ก่อนหน้านี้เขาอยู่ในเมืองจริง พักที่โรงแรมฮันนีแต่เขาเช็คออกจากโรงแรมเมื่อห้าวันก่อนโดยไม่ได้บอกว่าจะไปที่ไหนต่อ ถ้าอย่างนั้นเขาก็น่าจะเดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว อาจจะใช่ ขอโทษนะคะ ถ้าเขากลับมาจริง เขาก็น่าจะถึงที่นี่ตั้งนานแล้ว เพราะเขาคงไม่ได้เดินเท้ามาแน่ แล้วนี่คุณตรวจรายชื่อผู้โดยสารขาออกกับทางสายการบินหรือยังคะ? แน่นอนครับ และผลคือ? ไม่มีชื่อของเขา ถ้าเช่นนั้นเขาก็ต้องอยู่ในธาทาเนีย เราไม่คิดอย่างนั้น ไม่มีใครเห็นเขา เป็นไปได้มากว่าเขาเดินทางออกจากประเทศโดยรถยนต์และออกจากเมืองอื่น มันจะเป็นไปได้ยังไงคะ ในเมื่อเขาบอกฉันว่าเขาจะตรงจากธาทาเนียกลับมาเมืองไทย นี่เราอยู่ไกลกันข้ามทวีปเชียวนะคุณ! พี่ชายคุณเป็นนักข่าวอิสระนะครับ อีกฝ่ายพูดเหมือนเตือน ใครๆ ก็รู้ว่าพวกนี้ชอบตามข่าว ซึ่งเขาบอกกับคนที่โรงแรมไว้อย่างนั้น บอกกับใครคะ? อย่างน้อยก็กับเจ้าหน้าที่โรงแรมคนหนึ่ง
|