เสน่หาที่แสนหอมหวาน หากได้มาครอบครองเมื่อไหร่ มันก็ไม่ต่างจากบ่วงพันธนาการเส้นเขื่อง คือ เสน่หาพรหมจรรย์' ความบริสุทธิ์ที่พวกเขาได้มาครอบครอง ภายในอุ้งมือมารของเป็นเอก พรหมจรรย์ที่แสนหวงแหนของลลิตา ต้องตกเป็นของเขาอย่างไร้หนทางขัดขืน ลลิตาก้าวเดินฉับๆ ตรงไปยังคู่หมั้นหนุ่มที่หล่อนคิดว่าเขาอาจจะแค่เลวเพราะปมในอดีต แต่หล่อนเพิ่งซึ้งก็ตอนนี้ว่าคนอย่างเป็นเอกเลวโดยกมลสันดานจริงๆ "ขอให้เราจบกันแค่วันนี้ตรงนี้ ตาคงทำใจให้รักผู้ชายสารเลวแบบพี่ไม่ได้อีกแล้ว... ลาก่อนตลอดชีวิต" ... และภายในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเป็นใหญ่ พรหมจรรย์ที่แสนมีค่าของคนางค์ พร้อมยินยอมมอบให้เขาด้วยหัวใจ "ความรู้สึกของนางก็ของจริงเหมือนกันค่ะ ถ้าไม่รู้สึกอะไรก็คงจะไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก คุณใหญ่เห็นแก่ตัวเอาแต่ใจเคยถามตัวเองสักครั้งบ้างหรือเปล่าว่าที่อยากแต่งงานกับนางที่จริงน่ะต้องการอะไร ความรักหรือว่าเรื่องอย่างว่า" "ใช่ผมยอมรับว่าผมเห็นแก่ตัว ผมยอมรับว่าผมคิดถึงเรื่องอย่างว่ากับคุณตลอดเวลา แต่ก็เพราะว่าเป็นคุณนะคนางค์ ผมถึงได้มั่นใจว่าต้องเป็นคุณเท่านั้นที่จะมาอยู่เคียงข้างผมไปจนชั่วชีวิต แต่คุณกลับมองผมเป็นแค่ไอ้ผู้ชายบ้าตัณหาคนหนึ่ง ถึงต่อให้ผมเป็นสุภาพบุรุษที่สุดในโลก ถ้าได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่รัก ไม่มีผู้ชายหน้าไหนมันกล้าสาบานออกมาหรอกครับ ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอ ก็เหมือนที่ผมรู้สึกกับคุณ!" ทว่าความเสน่หาที่เกิดขึ้นบนหนทางซึ่งเต็มไปด้วยขวากหนาม กลับทำให้พวกเขาและเธอต้องพรากจาก ความเจ็บปวดกับวันเวลาที่ตามหาและรอคอยเนิ่นนานพอจะทำให้หัวใจทั้งสี่ดวงได้เข้าใจถึงสิ่งหนึ่งที่มีค่ามากกว่าพันธนาการด้วยพรหมจรรย์ นั่นคือเสน่หาแห่งรสสตรีที่หอมหวาน บทพิศวาสร่านร้อนใดๆ ก็มิอาจเทียบได้กับเสน่หาที่หัวใจทั้งสี่ใฝ่ปอง นั่นคือ รัก'
|