“พี่ไกร กรี๊ดดดด..” ตุลฎาสะบัดมือแรงๆ ปล่อยโอ่งใบเล็กที่โอบไว้ในตอนแรกให้หลุดร่วงลงบนพื้นแล้วกระโดดหนีหนอนนกที่หกลงบนพื้นและบนเท้าของตนให้หลุด “กรี๊ดดดด.. คุณเขื่อนช่วยเกลด้วยฮือๆๆ เกลกลัวหนอนฮือๆๆ” เธอทั้งร้องทั้งวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่ม กอดซบเขาไว้อย่างลืมตัว เช็ดมือกับแผ่นหลังของเขา และเท้ายังสะบัดไม่เลิกด้วยความขยะแขยง “เธอกล้าอ่อยกันขนาดนี้เลยเหรอหนูเกล” ธีรทัศน์กลับคิดว่าเป็นอุบาย ถึงแม้ความกลัวของเธอมันจะดูเหมือนจริงมากๆ จนเขาเองยังเชื่อเกือบสนิทร่างที่เขากอดไว้แน่นแข็งค้าง เสียงร้องที่เกิดจากความกลัวหยุดสนิท รีบผละออกจากร่างสูงใหญ่ที่สมบูรณ์ไปด้วยมัดกล้ามหลายก้าวทันทีด้วยความรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่ มองเขาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดแทบกระอักออกมาเป็นเลือด“คุณกำลังเข้าใจหนูผิดนะคะ” ฝืนอธิบายออกไปด้วยเสียงที่สั่นเครือ กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีก“จริงเหรอ” เขาหรี่ตามองเธออย่างพิจารณาพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก แค่เห็นสายตาของเขาเธอก็รู้เต็มอกว่าเขาไม่เชื่อในสิ่งที่ตนพูด รีบสูดก้อนสะอื้นเข้าไปในอกแล้วเชิดหน้าขึ้นท้าทายเขา“ถ้าคุณไม่เชื่อหนูก็จนปัญญาจะพูดแล้วค่ะ หนูขอไปทำงานก่อนนะคะ”“เชิญ” เขายักไหล่อย่างไม่แยแส “เดี๋ยวก่อน” เขาเรียกเธอไว้อีกครั้งเมื่อเธอหมุนตัวกำลังจะเดินจากไป “เอาอาหารปลาที่ติดอยู่ที่แขนเสื้อข้างขวาของเธอคืนมาให้หมดก่อนแล้วค่อยไป”ตุลฎาไม่แม้แต่จะมอง เธอรีบยกแขนข้างขวากางออกแล้วหมุนตัวกลับเข้าไปกอดเขาไว้แน่น ไม่กล้าสะบัดเพราะกลัวมันจะกระเด็นขึ้นมาเกาะส่วนอื่นของร่างกาย “คุณเขื่อนช่วยเอามันออกไปทีหนูกลัวฮือๆๆ” เธอพูดไปร้องไห้ไปด้วยความกลัวสุดชีวิต “ก็แค่หนอนนกที่แสนจะน่ารัก” รำพันออกมาแล้วจึงทำท่าเขี่ยๆ ที่แขนเสื้อของเธอหลายทีซ้อนให้ดูสมจริง ทั้งที่มันไม่มีอะไรเลย “หมดหรือยังคะ” “ถามจริงเถอะหนู ที่วิ่งเข้ามากอดฉันเนี่ยเพราะอยากทำให้แผนสำเร็จหรือเพราะกลัวจริงๆ กันแน่” ตุลฎาผลักเขาออกสุดแรง น้ำตาที่ไหลเพราะความกลัวในตอนแรกเปลี่ยนเป็นไหลเพราะความโมโหสุดขีด กัดฟันแน่น มองหน้าสู้สายตากับเขา“ถ้าคุณไม่ชอบฉัน คุณก็น่าจะปฏิเสธฉันไปตั้งแต่ทีแรก คุณไม่น่ารับฉันมาร่วมงานแล้วมาพูดจาดูถูกกันแบบนี้” “ใครบอกว่าฉันไม่ชอบเธอ ฉันชอบเธอมากตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรกเลยนะ หนูสวยถูกใจฉันชะมัดยาด จนฉันคิดจะพาขึ้นเตียงเลยแหละ”
|