ตะกร้าสินค้าของคุณ |
---|
ไม่มีสินค้าในตะกร้า |
สินค้าขายดี |
---|
Fifty Shades Freed (ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด
455
364 บาท
ปีกนางฟ้าเงาซาตาน / มิ้ว ณ ชมวิว / 520 416 บาท โสเภณีเดียงสา (ซีรีส์ชุดโสเภณียอดรั 279 250 บาท |
เฟสบุ๊ค |
---|
ชุดร้อยเล่ห์คนเถื่อน / พิชญวดี / ใหม่ ทำมือ |
---|
|
รายละเอียดสินค้า |
---|
คนเถื่อนบงการรัก /////// เขาคอยปลอบโยนเธอในช่วงเวลาที่หัวใจของเธออ่อนล้า แถมยังล่อลวงด้วยเพลิงไฟเสน่หา จนเกินจะต้านทานได้ไหว ก่อเกินสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นจนยากที่จะถอดใจ
ตัวอย่างบางตอน
“ทำไมล่ะ กลัวว่าพวกมันจะรู้ใช่ไหม หรือจริงๆ แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใครกันแน่ พี่...หรือว่าน้อง ?” ร่างสูงตามมากักขังคนตัวเล็กด้วยการคร่อม สองมือวางเท้าข้างตัวไร้ทางหนีรอด
เนตรอัปสรหน้าชาไปทั้งแถบ มากกว่าความโกรธมันคือความเสียใจและน้อยใจ ทำไมต้องทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ เขานับบ้างไหมว่าคุยเรื่องพวกนี้กันมากี่ครั้งแล้ว
ทำไมถึงไม่เคยเชื่อคำพูดของเธอบ้าง มองดูตัวเองบ้างหรือเปล่าว่าที่ผ่านๆ มา มีแค่เธอคนเดียวหรือมีใครคนอื่นอีก ไปไหนมาไหนด้วยกันแทบจะทุกทีที่มีผู้หญิงเข้ามาทักทาย กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องเก็บความกังวลไว้ภายใต้ใบหน้าเย็นชา
“เงียบ ? คิดนานจังเลยนะ ให้ช่วยคิดไหม” คนที่โดนความโกรธครอบงำใช้มือบีบปลายคางไม่แรงนัก
แต่นั่นมันทำให้เนตรอัปสรคิดว่า นอกจากจะไม่เชื่อใจกันแล้วเขายังไม่เคยคิดรักษาน้ำใจ ทำเหมือนเธอเป็นทาสรักหรือนางบำเรอส่วนตัวของเขา
“ถ้าคิดได้แค่นี้ก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก เนตรเบื่อที่ต้องคอpอธิบายทุกครั้ง จะไปไหนก็ไป !” หญิงสาวจ้องตากลับอย่างไม่ยอมแพ้ เธอทั้งโกรธทั้งเสียใจจนอยากจะผลักไสคนตัวโตแต่รู้ว่าไม่มีแรงมากพอขนาดนั้น “ไปตายเลยยิ่งดี เนตรจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอย่างทุกวันนี้”
คิดว่าไม่อึดอัดเหรอที่ต้องทำทุกอย่างให้เป็นความลับ !
คำพูดของร่างบางทำให้สติของชายหนุ่มขาดลง เขาตีความหมายออกไปอีกทางโดยสิ้นเชิง ใบหน้าคมเข้มนั่นแสดงสายตาวาวโรจน์ อีกทั้งยังขบกรามแน่นเหมือนกำลังปล่อยพายุลูกใหญ่ออกมา
“ได้เนตร ! แต่คนที่ตายไม่ใช่ฉันหรอก เป็นเธอต่างหาก !” สิ้นคำพูดนั้น ริมฝีปากหนาวกลงมากระแทกบดจูบเต็มแรงโทสะ ไม่ว่าเธอจะพยายามทุบตีหรือจิกข่วนหวังดึงสติเขากลับมา มันก็ไม่มีผลเลยสักนิด...
จำนนรักคนเถื่อน //////// นิสา : ผู้หญิงทุกคนไม่ได้ต้องการเป็นที่หนึ่งสำหรับคนรัก เพราะหากเป็นที่หนึ่งคงมีที่สองและที่สามตามมา เมื่อดูท่าทางเขายังไม่คิด 'จะหยุด' อยู่ที่เธอคนเดียว
ดังนั้นนกตัวน้อยอย่างเธอพร้อมจะกางปีก ‘บินหนี’ เสมอหากว่าวันนั้นมาถึง
ปัณณ์ : เมื่อเธอคิดจะหนีและโบยบินจากไป ฉะนั้นเขาจึงต้องสร้างกรงขึ้นมาเพื่อ ‘กักขัง’ เธอโดยเฉพาะ ต่อให้ปีกของเธอแข๋งแรงแค่ไหนเขามั่นใจว่ามันจะต้องพ่ายแพ้แก่ไฟพิศวาสที่เขาเป็นคนร่ายมันขึ้นมา
ตัวอย่างบางตอน
“หิว...” ปัณณ์ยกยิ้มแล้วตอบเสียงแผ่ว ร่างสูงโน้มหน้าลงไปหาคนตัวเล็ก “ก็เลยมาหา”
“หากินไกลจังเลยนะ ที่กรุงเทพฯ ไม่มีให้กินเหรอ” ไอ้ที่ว่าหิวน่ะคงไม่ใช่อาหารใช่ไหม มองตาก็ตีความหมายออกแล้ว ผู้ชายน่าเกลียดพูดเรื่องอย่างว่าได้ไม่อายปาก มันคงเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาไปแล้ว
เกลียดนัก !
“มี แต่คงไม่อร่อยเท่าที่นี่” ปากว่าไปมือถึงตัวทันที ร่างบางถูกรั้งเข้าหาคนตัวโตด้วยแขนแกร่งที่โอบเอวไว้แน่น นิสาแทบอยากจะกรีดร้องแล้วลงไม้ลงมือกับคนตรงหน้า แต่เขารู้ทันหมดจับล็อคแขนอย่างง่ายดาย
“ปัณณ์ !
“ทำตัวเหมือนเด็กๆ เอะอะคิดจะหนีอย่างเดียวไม่ฟังคำอธิบายหรือเหตุผลสักอย่าง”
“อย่ามาพูดแบบนี้นะ ใครกันแน่ที่ผิด ทำตัวแบบนั้นใครเขาจะรับได้ นิคนหนึ่งล่ะไม่อยากยุ่งด้วย” เขามันคนเห็นแก่ตัว ซุกซ่อนผู้หญิงไว้ข้างกายแบบนั้นจะมีหน้ามาอธิบายอะไรอีก เธอเห็นเองเต็มตาแถมยังไม่คิดจะปฏิเสธหรือทำอะไรให้มันดีขึ้นด้วยซ้ำ
“ไม่อยากยุ่ง ?” คนตัวโตถามเสียงสูงคล้ายเยาะเย้ย “สายไปแล้วล่ะมั้ง ยุ่งไปแล้วนี่...หรือคิดจะทำตัวกร้านโลก เป็นสาวล่าแต้มล่ะ หืม ?”
“ปัณณ์ !”
“ใช่ ผมชื่อปัณณ์ไงล่ะ ผัวของคุณน่ะ...จำเอาไว้ให้ขึ้นใจ คราวหน้าคราวหลังคงต้องหาป้ายแขวนคอให้ คนอื่นจะได้รู้ว่าผัวยังไม่ตาย !” นิสาถึงกับขนลุกซู่เมื่อได้ยินแบบนั้น เป็นครั้งแรกที่เห็นเขามีท่าทีคุกคามจนแข้งขาเธอไม่มีเรี่ยวแรง ปัณณ์ขบกรามแน่นแถมยังกัดฟันพูด...
กลลวงรักคนเถื่อน /// หากเธอคิดว่าเขาจะจำเจ้าของใบหน้าหวานล้ำไม่ได้แล้วละก็...เธอคิดผิดมหันต์
เพราะนอกจากเขาจะกลับมาทวงเงินจำนวนหนึ่ง ที่ต้องสูญเสียไปเพื่อชดใช้ความผิดของเธอ
เขายังจะกลับมาทวงรสชาติหวานๆ จากริมฝีปากบางที่เจ้าตัวเคยมอบมันให้เขาก่อนที่จะเกิดเรื่องทั้งหมด !
ปนัสยาแทบอยากจะหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่หากขืนทำอย่างนั้นคนตรงหน้าอาจจะสงสัยเอาได้ เธอบอกกับตัวเองว่านี่มันเป็นเรื่องบังเอิญ อีกอย่างเรื่องมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ‘เขา’ จำเธอไม่ได้หรอก
มันควรเป็นแบบนั้นแต่ทว่าไม่ใช่ ในช่วงเช้าความโล่งใจทำให้เธอมีความสุขไปทั้งวัน แต่ไหงตอนกลางคืนทุกอย่างมันกลับตาลปัตรกันอย่างสิ้นเชิง
“ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกับนะครับ คุณปนัสยา ‘อดีต’ ผู้ช่วยเลขาคนสวย” ปรานต์เหยียดยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าซีดเซียวของอีกฝ่าย แม้ตอนนี้ท้องฟ้าจะเริ่มมืดมิดแต่เขารับรู้ได้ถึงความตื่นตระหนกจากร่างบาง
“หืม ? หมายถึงอะไรเหรอคะคุณลูกค้า”
“จำไม่ได้อย่างนั้นเหรอครับ ?” ร่างสูงยืดตัวจนหลังตรงหลังจากที่ยืนพิงรถตัวเองเพื่อรอคนตัวเล็กเลิกงานหลายชั่วโมง เขาสาวเท้าเข้าใกล้หญิงสาวที่พยายามปั้นหน้าปั้นตาไม่รู้เรื่องใดๆ ออกมา
“น่าจะจำคนผิดนะคะ” เสียงหวานบอกกลั้วหัวเราะ แต่ทำไมเสียงตัวเองมันแห้งเหือดเหลือเกิน “อุ๊ย ! คุณคะ...” ปนัสยาร้องเสียงหลงเมื่อปลายนิ้วหนาปาดเข้ากับริมฝีปากของเธอ ขนกายลุกเกรียวตั้งชันจนทำตัวไม่ถูก
“หลายปีแล้ว ทำไมยังใช้สิปสติกสีเดิมล่ะ จำได้ไหม...” คนตัวโตก้มหน้าลงใกล้จนหญิงสาวแทบหยุดหายใจ อยากให้ทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวขึ้นมาทันที “ตอนนั้นที่เราจูบกัน ตอนที่แก้มของคุณแดงจัดเป็นลูกตำลึงสุก ตอนที่ลิปสติกของคุณ...เปื้อนริมฝีปากของผม”
“...” คำพูดของเขาทำให้แข้งขาของเธอกำลังจะอ่อนยวบ
“จำได้ไหม...ปริม ว่าจูบของเรามันเร่าร้อนมากแค่ไหน”
|
สอบถามหรือแสดงความคิดเห็น |
---|