จงอย่าหวั่นไหวไปกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ชีวิตไม่เคยเป็นดั่งใจ มนุษย์ย่อมต้องใช้ชีวิตโดยปรับตัวให้สอดคล้อง
เหมาะสม ปัญหาจิตใจต่างๆ ที่ประสบในกระบวนการดังกล่าวยังคงมี
อยู่ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้ อย่างไรก็ตามดูเหมือนทัศนคติรับมือปัญหา
ของคนเราเปลี่ยนไปจากเดิมมากในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา สมัยก่อนผู้คน
ทุกข์ใจกับการเพ่งเล็งประเด็นว่า "ฉันบกพร่อง" เวลาปรับตัวเขาหาโลก
ไม่ได้ ส่วนตอนนี้มีคนที่อยากเข้าใจวิธีใช้ชีวิตโดยรักษาความเป็นตัวเอง
ไม่หวั่นไหวเกินเหตุกับโลกภายนอกเพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ พวกเขาต้อง
การรู้วิธีสร้างสมดุลในหัวใจระดับพอดีๆ ระหว่างตัวเองกับโลกฉันจึงเพิ่ม
เนื้อหาว่าด้วยวิธีกับแนวคิดดังกล่าวไว้ในบทที่หนึ่งรวมถึงมีผู้อ่านเรียกร้อง
ว่าอยากรู้จักประเด็นพิเศษของจิตวิเคราะห์ ว่าด้วยความเคารพตัวเอง
ความซึมเศร้า ความโกรธ ฯลฯ จึงเพิ่มเติมไว้ในบทที่สี่ด้วย
รู้ตัวอีกทีฉันก็อยู่ระหว่างวัยที่สาม (Third Age) ซึ่งก้ำกึ่งระหว่างวัยกลางคน
กับผู้สูงอายุเสียแล้ว แม้เศร้าใจกับการเปลี่ยนแปลงของสังขารที่นับวันก็ยิ่ง
รู้สึกได้ชัดขึ้น กระนั้นการตระหนักถึงการเสื่อมสลายเช่นนี้ ก็ช่วยกระตุ้นให้
รู้ซึ้งถึงความหมายของชีวิตก่อเกิดหัวใจซึ่งยินดีจะพบเจอช่วงเวลาใหม่ๆ ที่
ว่าชีวิตคือการเดินทางไม่หยุดพัก กงล้อแห่งชีวิตจึงยังคงหมุนต่อไปข้างหน้า
ตราบใดที่ยอมรับและเข้าใจสัจธรรมนี้ ไม่ว่าในอดีตเคยเป็นเช่นไร เราจะก้าว
ต่อได้อีกก้าวหนึ่ง ซึ่งจะเป็นความยินดียากจะหาสิ่งใดเปรียบ ซึ่งหนังสือเล่มนี้
ได้ร่วมทางในกระบวนการเติบโตเช่นนั้นด้วย
|